วิธีตรวจสอบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราติดไวรัสหรือไม่ ?
วิธีตรวจสอบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราติดไวรัสหรือไม่ ?
สวัสดีครับ วันนี้ผมมีสาระความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเช็คเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราอย่างไร
ให้รู้ว่าโดนไวรัสหรือไม่ครับ มาดูกันว่าจะสามารถเช็คได้อย่างไรกันบ้าง
อันดับแรกเลยจะเป็นการเช็คแบบขั้นพื้นฐานที่เราทุกคนสามารถทำได้ ถึงแม่ว่าจะไม่ค่อยมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ก็สามารถทำตามได้เลยครับ
1. เช็ค Folder option การเช็ค Folder option นั้นเป็นวิธีเช็คแบบง่ายๆซึ่งไม่ค่อยมีประสิทธิภาพซักเท่าไรครับแต่ถามว่าสามารถเช็คได้ไหม ตอบได้เลยครับว่าสามารถเช็คได้ครับ วิธีการเช็คนั้นง่ายแสนง่ายเลยครับอับดับแรกเลยนะครับให้เข้าไปที่ไดร์ D ครับหลังจากนั้นไปที่ Tools ครับเมื่อคลิกแล้วจะปรากฏหัวข้อขึ้นมา 4หัวข้อและที่หัวข้อสุดท้ายจะเป็นของ Folder option ครับกรณีที่เครื่องนั้นไม่มี Folder option แสดงว่าเครื่องของคุณติดไวรัสแล้วละครับ ขอย้ำนะครับว่าวิธีนี้เป็นวิธีการเช็คเบื้องต้นเท่านั้นอาจจะไม่สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด
1. เช็ค Folder option การเช็ค Folder option นั้นเป็นวิธีเช็คแบบง่ายๆซึ่งไม่ค่อยมีประสิทธิภาพซักเท่าไรครับแต่ถามว่าสามารถเช็คได้ไหม ตอบได้เลยครับว่าสามารถเช็คได้ครับ วิธีการเช็คนั้นง่ายแสนง่ายเลยครับอับดับแรกเลยนะครับให้เข้าไปที่ไดร์ D ครับหลังจากนั้นไปที่ Tools ครับเมื่อคลิกแล้วจะปรากฏหัวข้อขึ้นมา 4หัวข้อและที่หัวข้อสุดท้ายจะเป็นของ Folder option ครับกรณีที่เครื่องนั้นไม่มี Folder option แสดงว่าเครื่องของคุณติดไวรัสแล้วละครับ ขอย้ำนะครับว่าวิธีนี้เป็นวิธีการเช็คเบื้องต้นเท่านั้นอาจจะไม่สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด
2. เช็คในส่วนของ Task Manager วิธีนี้ก็สามารถบอกเราได้ว่าเครื่องของเรานั้นติดไวรัสหรือไม่เช่นกัน วิธีการก็มีง่ายๆดังนี้ครับ เมื่ออยู่ในหน้าจอปกติให้เราทำการ กด Alt+Ctrl+Delete หากเครื่องของเรายังไม่โดนไวรัสเล่นงาน คำสั่ง Task Manager จะต้องขึ้นมาเมื่อเราเรียกใช้งานครับ หากเรียกใช้งานแล้วคำสั่งดังกล่าวไม่ขึ้นมาเบื้องต้น สันนิฐานได้เลยว่าเครื่องของเรานั้นติดไวรัสแน่ครับวิธีนี้จะเกิดขึ้นกับเครื่องที่โดนไวรัสเล่นงานค่อนข้างจะเยอะแล้วนะครับ
3. เช็ค คำสั่ง RUN เบื้องต้นคำสั่ง Run นั้น เป็นคำสั่งพื้นฐานที่เมื่อเรียกใช้งานแล้วตัวโปรแกรมจะต้องแสดงขึ้นมาครับ การเช็คก็ง่ายๆเลยครับ ในหน้าจอปกติครับให้เรา กดปุ่ม วินโดว์ครับ (คือปุ่มที่อยู่ระหว่าง ปุ่ม Ctrl และปุ่ม Alt ครับ ลักษณะจะเป็นรูปธงนะครับ) กดปุ่มวินโดว์ค้างไว้แล้วหลังจากนั้นตามด้วยตัว R ครับ เมื่อตามด้วยตัว R แล้วนั้น หน้าต่างของคำสั่ง Run นั้นจะต้องแสดงขึ้นมาครับ หากไม่มาหรือไม่สามารถเรียกใช้คำสั่งดังกล่าวได้ แสดงว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณนั้น โดนไวรัสแล้วละครับ
4. เช็คโดยการคลิกขวาที่ ไดร์ C, D หรือไดร์ ต่างๆแล้วตัวหนังสือเพี้ยนไป เช่น เมื่อคลิกที่ไดร์ D แล้วปรากฏว่า open หายไปหรือ มีคำว่า open 2อัน หรือว่า ตัวหนังสือของคำว่า open นั้น หนาผิดปกติ กรณีนี้ นะครับผมเรียนให้ทราบก่อนว่าไม่จำเป็นต้องเป็นคำว่า open เท่านั้นครับอาจจะเป็นในหัวข้อของexplore ก็เป็นได้ครับ ซึ่งวิธีนี้ต้องอาศัยการสังเกตุซักนิดนึงนะครับ ค่อนข้างจะไม่ค่อยเห็นถึงความแตกต่างซักเท่าไรแต่ด้วยความแตกต่างที่มองไม่ออกนี้ละครับเป็นช่องโหว่อย่างดีที่จะทำให้เจ้าไวรัสพวกนี้อาศัยช่องโหว่ดังกล่าวเข้ามาทำร้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรานั่นเองครับ
5. เครื่องถูกตั้งรหัสเอง โดยที่เราไม่ได้เข้าไปจัดการเลย ในกรณีนี้อาการจะเป็นคล้ายกับการตั้งรหัสเข้าเครื่องนั่น เองแต่ที่แท้จริงแล้วเราไม่ได้เป็นผู้เข้าไปตั้งเลย ลักษณะแบบนี้ผู้ใช้เองแทบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ครับว่าเครื่องของเรานั้นโดนไวรัสครับ แต่หารู้ไม่ว่านี่เป็นอาการเริ่มแรกเท่านั้นครับ และเมื่อใช้ไปนานๆ เครื่องของคุณก็จะมีอาการ ผิดปกติขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเมื่อเกิดอาการดังกล่าว สันนิฐานได้เลยว่าเครื่องของเรานั้นติดไวรัส แต่ก่อนอื่นนั้นต้องมั่นใจก่อนนะครับว่าไม่มีใครเข้าไปยุ่งเครื่องของเราจริงๆครับ
6. เช็ค Folder.exe วิธีการนี้จะรวมไปถึงเจ้าไวรัส .exe บางตัวด้วยนะครับ อาการก็คือว่า Folder จะเป็น
สีเหลือง เข้มผิดปกติ และไม่สามารถดับเบิ้ลคลิกได้ หรือ ดับเบิ้ลคลิกแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั่นเอง กรณีนี้เตรียมทำใจได้เลยครับเพราะเมื่อใดที่คุณ ดับเบิ้ลคลิกเข้าไปแล้วนั้นแน่นอนครับว่าเครื่องของคุณนั้นติดไวรัสแน่นอนครับวิธีแก้ไขนะครับ เมื่อสงสัยหรือเห็นถึงความผิดปกติเช่น ลักษณะของตัวอักษรเพี้ยนไปแนะนำครับอันดับแรกให้เข้าไปที่ Tool แล้วเลือก Folder option หลังจากนั้นไปเลือกที่ View หาหัวข้อ Hidden files and folder ครับ หัวข้อย่อยในนั่นให้เลือกไปที่ Show Hidden File And Folder ครับ เพื่อโชว์ไฟล์ที่ถูกเจ้าไวรัสนั้นเอาไปซ่อนครับ หลังจากนั้นนะครับ มองหาหัวข้อ Hide extensions for known file types และ Hide protected operating system files เครื่องหมายที่ติ๊กหน้าหัวข้อทั้งสองออกครับ หลังจากนั้นกด Apply แล้วก็กด ok ครับเมื่อกดเรียบร้อยแล้วนะครับให้เข้ามาเช็คที่ ไดร์ D ดูครับว่ามีไฟล์ folder.exe ปรากฏอยู่หรือปล่าวครับ ถ้ามีอยู่นะครับให้ทำการลบโดยใช้โปรแกรม Unlocker ครับเพราะว่าไฟล์ดังกล่าวเป็นไวรัสแน่นอน เพราะโดยปกติแล้วไฟล์ที่เป็น folder นั้นจะไม่เป็น .exe ครับ
นี่คือวิธีการเช็คเบื้องต้นเท่านั้นนะครับซึ่งอาจจะได้ผลไม่ 100 % แต่สามารถจัดการไวรัส .exe ได้ อย่างแน่นอนครับแต่ต้องอาศัยความเข้าใจและการสังเกตุนิดนึงนะครับ มิฉะนั้นหากลบไฟล์ผิดขึ้นมาแล้ว จะยุ่งครับ และที่อยากแนะนำนะครับอยากให้ใช้โปรแกรม unlocker ในการลบครับจะได้ผลดีกว่าลบโดย การกด Shift+delete ครับที่สำคัญนะครับอย่าได้เข้าไปลบใน ไดร์ C เด็ดขาดเลยนะครับเพราะในส่วน ของ ไดร์ C นั้นจะประกอบไปด้วยไฟล์ของวินโดว์ต่างๆมากมายครับ
3. เช็ค คำสั่ง RUN เบื้องต้นคำสั่ง Run นั้น เป็นคำสั่งพื้นฐานที่เมื่อเรียกใช้งานแล้วตัวโปรแกรมจะต้องแสดงขึ้นมาครับ การเช็คก็ง่ายๆเลยครับ ในหน้าจอปกติครับให้เรา กดปุ่ม วินโดว์ครับ (คือปุ่มที่อยู่ระหว่าง ปุ่ม Ctrl และปุ่ม Alt ครับ ลักษณะจะเป็นรูปธงนะครับ) กดปุ่มวินโดว์ค้างไว้แล้วหลังจากนั้นตามด้วยตัว R ครับ เมื่อตามด้วยตัว R แล้วนั้น หน้าต่างของคำสั่ง Run นั้นจะต้องแสดงขึ้นมาครับ หากไม่มาหรือไม่สามารถเรียกใช้คำสั่งดังกล่าวได้ แสดงว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณนั้น โดนไวรัสแล้วละครับ
4. เช็คโดยการคลิกขวาที่ ไดร์ C, D หรือไดร์ ต่างๆแล้วตัวหนังสือเพี้ยนไป เช่น เมื่อคลิกที่ไดร์ D แล้วปรากฏว่า open หายไปหรือ มีคำว่า open 2อัน หรือว่า ตัวหนังสือของคำว่า open นั้น หนาผิดปกติ กรณีนี้ นะครับผมเรียนให้ทราบก่อนว่าไม่จำเป็นต้องเป็นคำว่า open เท่านั้นครับอาจจะเป็นในหัวข้อของexplore ก็เป็นได้ครับ ซึ่งวิธีนี้ต้องอาศัยการสังเกตุซักนิดนึงนะครับ ค่อนข้างจะไม่ค่อยเห็นถึงความแตกต่างซักเท่าไรแต่ด้วยความแตกต่างที่มองไม่ออกนี้ละครับเป็นช่องโหว่อย่างดีที่จะทำให้เจ้าไวรัสพวกนี้อาศัยช่องโหว่ดังกล่าวเข้ามาทำร้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรานั่นเองครับ
5. เครื่องถูกตั้งรหัสเอง โดยที่เราไม่ได้เข้าไปจัดการเลย ในกรณีนี้อาการจะเป็นคล้ายกับการตั้งรหัสเข้าเครื่องนั่น เองแต่ที่แท้จริงแล้วเราไม่ได้เป็นผู้เข้าไปตั้งเลย ลักษณะแบบนี้ผู้ใช้เองแทบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ครับว่าเครื่องของเรานั้นโดนไวรัสครับ แต่หารู้ไม่ว่านี่เป็นอาการเริ่มแรกเท่านั้นครับ และเมื่อใช้ไปนานๆ เครื่องของคุณก็จะมีอาการ ผิดปกติขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเมื่อเกิดอาการดังกล่าว สันนิฐานได้เลยว่าเครื่องของเรานั้นติดไวรัส แต่ก่อนอื่นนั้นต้องมั่นใจก่อนนะครับว่าไม่มีใครเข้าไปยุ่งเครื่องของเราจริงๆครับ
6. เช็ค Folder.exe วิธีการนี้จะรวมไปถึงเจ้าไวรัส .exe บางตัวด้วยนะครับ อาการก็คือว่า Folder จะเป็น
สีเหลือง เข้มผิดปกติ และไม่สามารถดับเบิ้ลคลิกได้ หรือ ดับเบิ้ลคลิกแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั่นเอง กรณีนี้เตรียมทำใจได้เลยครับเพราะเมื่อใดที่คุณ ดับเบิ้ลคลิกเข้าไปแล้วนั้นแน่นอนครับว่าเครื่องของคุณนั้นติดไวรัสแน่นอนครับวิธีแก้ไขนะครับ เมื่อสงสัยหรือเห็นถึงความผิดปกติเช่น ลักษณะของตัวอักษรเพี้ยนไปแนะนำครับอันดับแรกให้เข้าไปที่ Tool แล้วเลือก Folder option หลังจากนั้นไปเลือกที่ View หาหัวข้อ Hidden files and folder ครับ หัวข้อย่อยในนั่นให้เลือกไปที่ Show Hidden File And Folder ครับ เพื่อโชว์ไฟล์ที่ถูกเจ้าไวรัสนั้นเอาไปซ่อนครับ หลังจากนั้นนะครับ มองหาหัวข้อ Hide extensions for known file types และ Hide protected operating system files เครื่องหมายที่ติ๊กหน้าหัวข้อทั้งสองออกครับ หลังจากนั้นกด Apply แล้วก็กด ok ครับเมื่อกดเรียบร้อยแล้วนะครับให้เข้ามาเช็คที่ ไดร์ D ดูครับว่ามีไฟล์ folder.exe ปรากฏอยู่หรือปล่าวครับ ถ้ามีอยู่นะครับให้ทำการลบโดยใช้โปรแกรม Unlocker ครับเพราะว่าไฟล์ดังกล่าวเป็นไวรัสแน่นอน เพราะโดยปกติแล้วไฟล์ที่เป็น folder นั้นจะไม่เป็น .exe ครับ
นี่คือวิธีการเช็คเบื้องต้นเท่านั้นนะครับซึ่งอาจจะได้ผลไม่ 100 % แต่สามารถจัดการไวรัส .exe ได้ อย่างแน่นอนครับแต่ต้องอาศัยความเข้าใจและการสังเกตุนิดนึงนะครับ มิฉะนั้นหากลบไฟล์ผิดขึ้นมาแล้ว จะยุ่งครับ และที่อยากแนะนำนะครับอยากให้ใช้โปรแกรม unlocker ในการลบครับจะได้ผลดีกว่าลบโดย การกด Shift+delete ครับที่สำคัญนะครับอย่าได้เข้าไปลบใน ไดร์ C เด็ดขาดเลยนะครับเพราะในส่วน ของ ไดร์ C นั้นจะประกอบไปด้วยไฟล์ของวินโดว์ต่างๆมากมายครับ
7. เช็คการทำงานของ CPU วิธีนี้เป็นการเช็คดูว่า cpu ของเรานั้นทำงานผิดปกติหรือไม่ครับวิธีตรวจสอบนะครับกด เข้า Task Manager หลังจากนั้นเลือกไปที่หัวข้อ Performance ให้สังเกตุดูที่หัวข้อ CPU Usage ดูนะครับว่าทำงานอยู่ที่กี่ % หากรันที่ 100% ตลอดโดยที่เราไม่ได้รัน โปรแกรมใดๆเลยแสดงว่าเครื่องเรานั้นโดนไวรัสแล้วละครับ เพิ่มเติมนะครับอาการดังกล่าวอาจส่งผลให้เครื่องคอมพพิวเตอร์ของเรานั้น Restart เอง หรือบางครั้งอาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเรานั้นดับเองได้ด้วยนะครับหากเครื่องของท่านตอนนี้มีอาการ ค้างๆแล้ว restart เองบ่อยๆนะครับลองเข้ามาเช็คการทำงานของ cpu ได้เลยครับ
ทั้งหมดนี้เป็นการเช็คเครื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเท่านั้นนะครับ ว่าเครื่องของเรานั้นติดไวรัสอยู่หรือไม่ครับซึ่งที่จริงแล้ววิธีการตรวจสอบมีอีกมากมายแต่วิธีที่ผมเอามาแนะนำนั้นเป็นวิธีที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองครับถึงไม่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์มากนักก็สามารถเช็คและตรวจสอบเองได้ครับและไม่ส่งผลกระทบใดต่อเครื่องเลยครับ ส่วนผลของการเช็คอาจจะไม่ออกมาตรงตามที่ผมได้แจ้งข้อมูลไว้ก็ได้ซึ่งขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่างเช่น เวอร์ชั่นของวินโดว์ การปรับแต่งของวินโดว์นั้นๆครับ
ทั้งหมดนี้เป็นการเช็คเครื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเท่านั้นนะครับ ว่าเครื่องของเรานั้นติดไวรัสอยู่หรือไม่ครับซึ่งที่จริงแล้ววิธีการตรวจสอบมีอีกมากมายแต่วิธีที่ผมเอามาแนะนำนั้นเป็นวิธีที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองครับถึงไม่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์มากนักก็สามารถเช็คและตรวจสอบเองได้ครับและไม่ส่งผลกระทบใดต่อเครื่องเลยครับ ส่วนผลของการเช็คอาจจะไม่ออกมาตรงตามที่ผมได้แจ้งข้อมูลไว้ก็ได้ซึ่งขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่างเช่น เวอร์ชั่นของวินโดว์ การปรับแต่งของวินโดว์นั้นๆครับ
ไม่มีความคิดเห็น