TIP ORACLE
ฟังก์ชั่น |
หน้าที่
|
LENGTH <column name> | ใช้หาความยาวของสายอักขระ |
SUBSTR (string, starting character, number of characters) | ใช้แยกสายอักขระย่อยออกมาจากสายอักขระเดิม |
REPLACE (string, existing_string, [replacement_string]) | ใช้แทนที่สายอักขระเดิมด้วย Replacement_string |
LTRIM <column Name> และ RTRIM <column name> | ใช้ตัดช่องว่างด้านซ้ายหรือด้านขวาของสายอักขระ |
LPAD (string, n, pad_string) และ LPAD (string, n, pad_string) | ใช้เพิ่มสายอักขระที่ด้านซ้ายหรือด้านขวาของสายอักขระเดิม |
INITCAP <column name> และ LOWER <column name> และ UPPER <column name> | ใช้เปลี่ยนให้อักษรตัวแรกเป็นตัวใหญ่ ใช้เปลี่ยนให้อักษรทุกตัวเป็นตัวเล็ก ใช้เปลี่ยนให้อักษรทุกตัวเป็นตัวใหญ่ |
DECODE (expression, value1,returned_value1, …, valueN, returned_valueN, [default_returned_value]) | ใช้แปลงค่าสายอักขระให้เป็นตามที่ต้องการ |
ACII <column name> | ใช้แปลงตัวอักขระให้เป็นค่าตัวเลขตามรหัส แอสกี |
INSTR (string1, string2, [starting_position, [occurrence_number]]) | ใช้ตรวจหาสายอักขระ (string1) ว่ามีแทรกอยู่ในสายอักขระอีสายหนึ่ง (string 2) หรือไม่ |
ฟังก์ชั่น | หน้าที่ |
TO_CHAR (number [, format]) | ใช้แปลงค่าตัวเลขให้เป็นสายอักขระ |
TO_NUMBER (string [, format]) | ใช้แปลงสายอักขระให้เป็นค่าตัวเลข |
ROUND (value, [scale]) | ใช้ปัดเศษ |
TRUNC (value, [scale]) | ใช้ตัดเศษทิ้ง |
FLOOR (value) | ใช้แปลงทศนิยมเป็นจำนวนเต็มค่าต่ำกว่าค่าเต็มไม่เกิน 1 |
CEIL (value) | ใช้แปลงทศนิยมเป็นจำนวนเต็มค่าสูงกว่าค่าเต็มไม่เกิน 1 |
NVL (column-value, substitute-value) | ใช้ตรวจค่าว่าในแอตทริบิวต์เป็นค่าว่างหรือไม่แล้แทนด้วย substitute-value |
MOD (m , n) | หารเศษด้วย |
SQRT (n) | หาค่ารากที่สอง |
ABS (value) | หาค่าสัมบูรณ์ |
CHR (value) | แปลงค่าตัวเลขเป็นตัวอักขระตามรหัสแอสกี ที่ตรงกับตัวเลขนั้น |
ไม่มีความคิดเห็น